อยู่กับผี

อยู่กับผี เราชื่อแตงโม ประสบการณ์ขนหัวลุก ของเรานั้น มันเกิดขึ้นตั้งแต่เราอายุได้ 6 ขวบ ตอนนั้นเรากำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 ซึ่งช่วงนั้นแม่ของเราได้ซื้อบ้านไว้หลังหนึ่ง

เป็นบ้านตึกแถวไม่เคยมี คนอยู่อาศัยมาก่อน ด้านหลังตึกแถวจะเป็นซอยเข้าไป เป็นบ้านทาวน์โฮมสองชั้น จะมีคนซื้อไว้เป็นบ้านพักอาศัย ซึ่งด้านหน้าจะซื้อไว้เป็นออฟฟิศ หรือตั้งเป็นบริษัท มากกว่าเป็นที่อยู่อาศัย

ซึ่งช่วงแรก แม่เรากับพี่ได้แวะเวียนมาดูบ้านก่อนที่จะซื้อ เป็นบ้านตึกแถว 3ชั้น 2 คูหา แม่กับลูกและเซลล์ขายบ้านเขาก็พาเราเปิดบ้านสำรวจ

พวกเราดูบ้านตั้งแต่ชั้นหนึ่ง เราสังเกตุว่า จะมีกองไฟเก่าๆ ตั้งอยู่กลางบ้านทุกชั้น ชั้นสองชั้นสามก็มี และชั้นสามเหมือนจะมีกองใหญ่สุด แม่ก็ได้ถามเซลล์ว่าทำไมมีกองไฟ เซลล์ก็บอกว่า บางทีก็มีไวรุ่นงัดเข้ามาเสพยาบ้างเพราะเห็นว่าเป็นตกเปล่า ไม่มีคนอยู่อาศัย

ซึ่งตึกนี้เป็นตึกที่ติดถนน เส้นหลักเลย เพื่อนบ้านส่วนมากเค้าจะเปิดเป็นบริษัทกัน แล้วแม่ก็ตัดสินใจซื้อตึกนี้ พวกเราก็ย้ายเข้ามาที่บ้านหลังนี้ หลังจากที่แม่ซื้อบ้านหลังนี้

ก็ให้ช่างมาตกแต่งภายในจนสวยงามใหม่เอี่ยม ปลูกด้วยไม้เป็นเฟอร์นิเจอร์แกะสลัก ส่วนตัวแม่เองจะเป็นคนชอบงานไม้มาก บ้านหลังไหนๆก็ต้องประดับด้วยตู้โชว์ตู้แก้วและงานไม้เป็นหลัก

และหลังจากทำบุญขึ้นบ้านใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรากับครอบครัวก็ย้ายเข้ามาอยู่อย่างเต็มตัว ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา แต่เรื่องมันกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

เมื่อเราและครอบครัวได้เข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ก็เกิดอะไรขึ้นแปลกประหลาดขึ้นหลายอย่าง ไม่ว่าคนจะอยู่ในบ้านเยอะแค่ไหน ก็รู้สึกแปลกๆ เวลาที่เดินไปหลังบ้านเพื่อเดิน ไปที่ครัวทุกคนก็จะรู้สึกเสียวสันหลังอยู่ตลอด หลายเหตุการณ์เริ่มเกิดขึ้น

บ้านเราเริ่มมีปัญหาเรื่องธุรกิจ จากที่มีพี่เลี้ยง แม่บ้านสองคน จากที่คุณพ่อทำงานเป็นผู้รับเหมา ที่มีรายได้ที่ถือว่าเยอะมาก ไม่อดอยาก ถานะดี อยู่ดีๆพ่อก็โดนโกง จนถึงขั้นล้มละลาย

ส่วนคุณแม่ก็เป็นแม่บ้าน แต่ก็หัดค้าขาย เป็นนายหน้าขายที่ดินบ้าง ก็ยังมีที่ดินช่วยเหลือคุณพ่ออีกที ส่วนตากับพี่สาวยาย ก็มาล้มป่วยด้วยโรคชรา

ตอนนั้นเราอายุ ราวๆ 9 ขวบกลับกลายเป็นว่า คุณแม่ได้ไปบ้านตา และพี่สาวยายทุกวัน เพื่อไปดูแลท่านและไม่ค่อยมีเวลาได้กลับบ้าน จนกระทั้งท่านเสีย เราก็ไม่ค่อยได้เจอแม่เลยในช่วงนั้น

ส่วนพ่อ ตอนเช้าก็ส่งเรากับพี่ไปโรงเรียน ส่วนตอนเย็นก็กลับเอง ขึ้นสองแถวกับพี่ชาย จากเมื่อก่อน พ่อต้องไปรับเรา เช้าเย็น แต่ช่วงที่บ้านเป็นแบบนี้เลยต้องช่วยกัน

บางวันพ่อก็กลับดึกจนบางวันหลับไปแล้ว ตื่นขึ้นมาถึงเจอพ่อในตอนเช้า ส่วนกับข้าวแม่จะซื้อ หมู ซื้อไก่ ซื้อไข่ หรือช่วงหนักๆ ก็จะซื้อมาม่าและปลากระป๋องอย่างละแพ็ก เอาไว้ให้เรากับ พี่ชาย

จะบอกว่าช่วงที่หนักจริงๆ หลังเลิกเรียนบางวัน จะมีแค่นม พี่ชายเราเหลือเงินแค่ 20 บาทจะวิ่งไปซื้อมาให้ แล้วยังมาบกกับเราว่า แกๆ ดีใจมั้ยนมมันเพิ่มปริมาณด้วยนะ แกจะได้อิ่มๆไง เราก็ไม่ค่อยรู้เรื่องสักเท่าไร

วันนั้นพ่อแม่ไม่เข้ามาบ้าน เพราะต้องไปหาเงินส่วนแม่ ก็ต้องดูแลคนแก่ มีพี่ชายเรานี้แหละที่ดูแลเราอยู่ข้างๆ หลังจากเหตุการณ์หลายๆอย่างเกิดขึ้น ช่วงค่ำ พ่อจะยังไม่กลับอย่างที่บอก

และแม่ก็กลับบ้างไม่กลับบ้าง จากที่เรากลับจากโรงเรียนมากับพี่ชาย มันก็เริ่มติดเพื่อน เริ่มเป็นหนุ่ม ไปเต๊ะบอลกับเพื่อนหลังเลิกเรียน เราก็เลยต้องกลับบ้านคนเดียว

วันหนึ่งเรากลับมาจากโรงเรียน เวลาประมาณ 5 โมงเย็นเราเปิดประตูเหล็กรูดขึ้น แล้วจะมีประตูกระจกข้างในอีกชั้นหนึ่ง พอเราเปิดเข้าไป ลองจินตนาการภาพดูนะว่า

ในบ้าน

บ้านเราเป็นปูน แล้วตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ด้วยไม้ อย่างอัดแน่น ตอนนั้นในใจก็แอบหลอน เพราะมันทำให้บ้านดูมืด แล้วบ้านของเราเสียงก็กล้องมาก ๆ เพราะมตั้งสามชั้น สองคูหาอย่างที่บอก

ครั้งแรกที่พี่ชาย ปล่อยให้เรากลับบ้านเองคนเดียว เราเปิดประเข้ามาในบ้าน เสียงแรกที่ได้ยินก็คือ เสียงของตกที่ชั้นสาม เสียงดังมากจนเราตกใจ แล้วเสียงแบบนี้ ก็เกิดขึ้นบ่อยๆ

เวลาเราอยู่คนเดียว หลังจากนั้นเราก็ต้องกลับบ้านคนเดียว เป็นแบบนี้ จนเราขึ้นประถมปลาย บางวันเรากลับมา ก็ไม่กล้าขึ้นข้างบน ห้องนอนของเราอยู่ชั้นสอง นอนกับคุณพ่อ และพี่ชาย เป็นห้องนอนใหญ่นอนรวมกัน

มีห้องน้ำส่วนตัว ส่วนชั้นสาม แม่สร้างเป็นห้องเรากับพี่ชาย นอนคนละห้องและมีห้องพระอยู่ตรงกลาง แต่ไม่มีใครขึ้นไปนอน มีแต่ขึ้นไปไหว้พระ บางครั้งพ่อเคลียดเรื่องงานอยากขึ้นไปไหว้พระพ่อยังไม่กล้าขึ้นไปเลย

ปกติพ่อก็ไม่กลัวนะแม่ก็เช่นกัน หลังจากที่ขึ้นไปไหว้พระแล้วลงมา จะมาบ่นว่าเวลาเดินอยู่บนชั้นสาม เหมือนมีคนเดินตามฝีเท้าเราจนเป็นเหตุการณ์ที่หลายคนเจอและต้องวิ่งลงมาทีละสองสามขั้นบันไดเลยทีเดียว

ส่วนญาติพี่น้องที่เคยมาเยี่ยม มานอนพักไม่ต้องพูดถึง เขาบอกว่าโดนผีอำกันทุกคน เราก็ งงมากทำไมเขาถึงกลัวกัน บางทีเราไปเที่ยว ต่างจังหวัดกับครอบครัวจ้างให้แม่บ้านมานอน แกก็ปฏิเสธไม่อยากนอน

จนแม่ต้องขอร้องให้เฝ้าบ้าน จะเพิ่มเงินให้ แกถึงยอม แต่แกก็ไม่อยากนอนอยู่ดีไม่รู้ทำไม

และพูดเรื่องความฝันเรื่องที่ฝันบ่อย ๆ ก็คือ ฝันเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ในฝันเห็นไม่ค่อยชัดตลอด แต่รู้ว่าเป็นผู้หญิงใส่ชุดขาว เราฝันถึงผู้หญิงคนนี้บ่อยสุดๆ

แทบจะทุกคืน เคยฝันบ่อยสุด 7-8 วันติดต่อกัน ฝันไปถึงเหตุการณ์ต่างๆ แต่ทุกๆเหตุการณ์ จะเกิดขึ้นที่ชั้นสามของบ้านเราเอง

ครั้งแรกฝันว่า ขึ้นไปที่ชั้นสาม กำลังจะเข้าไปห้องของเราเองแต่จู่ๆก็มีพายุหมุนเล็กๆเข้ามาขวางหน้าเราให้ตกใจเหมือนหลอกเรา

ฝันต่อมาก็ฝันว่าขึ้นไปชั้นสามอีกตามเคย พอเปิดเข้าไปที่ห้องน้ำห้องไหนก็ออกมาที่ห้องเดิมเปิดไปห้องไหนๆก็ออกมาที่ห้องเดิมๆซ้ำๆจนเราร้องไห้ในฝันเหมือนแกล้งเราและบรรยากาศก็มืดทุกครั้ง

และฝันต่อมาก็ฝันว่าจะมีคนไล่ฆ่าเรากับพี่ชาย โดยในฝันจะมีผู้หญิงคนนั้นตลอด และฝันที่พีคที่สุดเราฝันว่า ในตอนกลางวัน เราได้ขึ้นไปที่บนชั้นสามเราเห็นเปลเด็กที่เป็นเหล็กสี่เหลี่ยมทั่วไปสีฟ้าและมีของเล่นห้อยอยู่

เปลหลังนี้ก็ตั้งอยู่บนห้องโถงชั้นสาม และเราก็ไปชะเง้อหน้าดูเด็กในเปล แต่ยังไม่ทันได้เห็นเด็กก็มีส้นเท้ายักถีบเราล่วงจากชั้นสามลงมาชั้นหนึ่งในฝันเรากลัวมากแล้วจู่ๆในฝันก็กลายเป็นกลางคืนสะงั้น

ช่วงนั้นเราติดเกมส์เดอะซิม เราโกหกพ่อว่าป่วยจะได้เลยเกมส์อยู่บ้าน มันเป็นช่วงกลางวันเราจึงกล้าอยู่บ้าน พ่อออกไปทำงานเราก็ตื่นมาเล่นเกมส์แต่โต๊ะคอมตั้งอยู่นอกห้องนอน

โดยจะหันหลังให้บันไดบ้าน ด้านหลังเราจะเป็นโถงชั้นสองโร่งๆ เล่นเกมไปเพลินๆปกติ แต่ก็ต้องเหลียวหลังตลอด เคยเป็นมั้ยเวลามีคนจ้องมองเราจากข้างหลังเราจะรู้สึกตัว เราก็เล่นไปแล้วก็หันหลังไปตลอดเวลา

ตอนกลางคืนคุณพ่อจะละเมอร้องโวยวายทุกคืน เหมือนโดนผีอำ ทั้งถีบ ทั้งต่อย เป็นบ่อยจนแม่ต้องบอกเสมอว่าให้ปลุกพ่อด้วยนะปลุกให้ตื่นเลย เดี๋ยวพ่อจะขาดใจสะก่อน

เราถามพ่อว่าฝันอะไรบ่อยๆ พ่อก็เล่าให้ฟังว่า ในฝันมีผู้หญิงชวนไปอยู่ด้วยแต่ในฝันก็รู้ว่าเป็นผีแต่ก็พยายามจะวิ่งหนี แต่ก็หนีไม่พ้นบางครั้ง บางครั้งเห็นคนตายเต็มไปหมด เดินไปทางไหนก็มีแต่คนฆ่าตัวตาย คนผูกคอตาย โดดตึก ฆ่ากัน

จนในฝันต้องวิ่งหนี แต่หนีก็หนีไม่พ้น วันหนึ่งพ่อเลยฝันเหมือนเดิม โวยวายเต๊ะต่อยเหมือนเดิม เราก็ปลุกพ่อ พ่อก็ลุกเฮือกฮาก ขึ้นมาพูดว่าโตไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น โตคือพี่ชายของเราเอง

เราก็อุทานอะไรนะพ่อ โตไปทำอะไรอยู่ตรงนั้นทำไมไม่นอนเราก็มองตามไปเหมือนที่พ่อมอง เราเห็นเป็นผู้หญิงผมสั้นประบ่ายืนอยู่ที่ตู้เสื้อผ้าเพราะแสงจากละเบียงหลังบ้านที่เปิดไว้ทุกคืน เธอยืนอยู่ปลายเตียงเรารีบหันหลังคลุมโปงเลย

เราได้แต่บอกตัวเองว่าตาฝาดไม่เห็นอะไร แล้วก็เผลอหลับไปบางวันทะเลาะกับพี่ล็อกไม่ให้มันเข้ามาในห้อง แล้วจู่ๆขวดน้ำที่ตั้งไว้ก็ล่นลงมาน้องนองเต็มพื้นเลยเราเลยรีบวิ่งไปเปิดประตูให้พี่ชายบ้านเราก็ใหม่นะแต่บรรยากาศวังเวงไปหมด

มาถึงวาละที่พ่อกับแม่เริ่มตั้งตัวได้ เราอาศัยอยู่บ้านหลังนี้มานานถึง 8 ปีแม่ก็ได้ประกาศขายบ้านหลังนี้มาสักพักหนึ่งแล้ว อยู่ดีๆก็มีคนหนึ่งมาขอซื้อเขาก็มาดูบ้านเราเขาเป็นคนรวยอายุประมาณ 35 ปี

เขาบอกว่าเขาเป็นหมอดูฮวงจุ้ย ไม่รู้ทำไมเหมือนกันแต่ผมต้องช่วยคุณ ผมต้องซื้อบ้านหลังนี้เขาเดินดูไปมา แล้วบอกเราว่ามันแปลกๆ มันมีอะไรสักอย่างแม่ดีใจมาก ตอนแรกแม่จะขาย 5ล้านแต่ด้วยความที่ดีใจที่เขามาช่วยซื้อเลยลดให้ 4.5ล้าน

เขาไม่ต่อเราสักแดงเดียว ตกลงทำเรื่องโอนกันเรียบร้อย วันที่ขายบ้านได้แม่ดีใจมากซื้อของมาทำสุกี้กินฉลอง ที่บ้านหลังนี้แม่ชอบดื่มไวน์มากแม่ดื่มแล้วก็เลยอยากระบาย

ความในใจกับลูกๆ ขณะที่เราเองกำลังโซ้ยสุกี้แบบไม่หายใจนั้น พี่ก็นั่งเล่นเกมส์อยู่ ส่วนพ่ออิ่มแล้วก็ขึ้นไปนอน แม่ซึ่งอยู่ในอาการเมานิดหน่อย พูดออกมาว่าดีใจจังเลย ในที่สุดเราก็ขายบ้านหลังนี้ได้

ทำไมเหรอ แม่ก็ว่าดีใจจะได้เอาเงินไปซื้อที่อยู่ใหม่ ใครจะไปอยู่ได้บ้านที่มีคนตายแบบนี้ เราก็ตกใจไม่จริงใช่มั้ยแม่ ก็เฮียบ้านด้านหลังเขาเป็นญาติกับเจ้าของตึก เฮียแกบอกว่าดีแล้วที่ขายบ้านได้

เราก็เลยทราบเรื่องว่า เขาคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงมักมาเล่นยากับแฟนหนุ่มบ่อยๆที่ตึกแห่งนี้ วันหนึ่งแฟนหนุ่มก็หลอนจากยาเสพติด แล้วฆ่าผู้หญิงคนนั้นจนตายและผู้หญิงคนนี้มีท้องอ่อนๆ น่าจะราวๆ2เดือน แต่ก็ถูกฆ่าเสียก่อน

แล้วศพนั้นก็ถูกลากไปทิ้งที่ป่าหลังบ้าน ซึ่งตอนเด็กๆเรากับพี่ๆ ชอบไปเล่นแถวนั้นบ่อยๆ เราก็สติแตกมากเพราะเราต้องอยู่บ้านหลังนี้อีกหลายอาทิตแต่แม่อยู่บ้านอีกหลัง

และตอนนี้เราย้ายออกจากบ้านหลังนั้นแล้วตอนนี้เฮียคนที่ซื้อบ้านเขาก็โดนเขามาช่วยเราก็จริง แต่เขาก็มีธุรกิจหลายอย่างมีฟาร์มวัวเนื้อ วัวของเฮียก็ล้มตายไปสิบกว่าตัวเลย เฮียก็โทรมาเล่าให้แม่ฟัง

อยู่กับผี แต่ก็อย่างที่บอกหละเขาเป็นเทพบุตร ที่มาช่วยเหลือบ้านเราจริงๆ ทุกวันนี้บ้านหลังนั้นก็ไม่มีคนอยู่แต่ก็เปิดเป็นออฟฟิศของประกันสีแดง แต่เราก็รู้สึกผูกพันกับบ้านหลังนั้นนะเดียวนี้ก็นานๆฝันทีเราก็ ทำบุญไปให้อยู่บ่อยๆ สมัครสล็อตxo

Update : 16/11/2019

Related Posts