เมียผี เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องจากคุณเลิฟ เกิดขึ้นสมัยที่คุณเลิฟทำงานอยู่ในบริษัทก่อสร้างแห่งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว คุณเลิฟเล่าว่า..
ขอเกริ่นนิดนึงก่อนว่า เจ้าของบริษัทแกเป็นคนชอบเล่นของเก่า สะสมของเก่า ชนิดว่าที่ไหนมีของโบราณของเก่า ไม่ว่าจะอยู่ไกล
แค่ไหน แกจะต้องดั้นด้นไปซื้อมาครอบครองจนได้ มีวันหนึ่ง แกได้ข่าวมาว่ามีบ้านเรือนไทยโบราณหลังนึง เจ้าของตายไปนานแล้ว ลูกหลานก็ไม่มีเวลาไปอยู่ ปล่อยร้างมานานหลายสิบปี ต้องการจะขาย แกก็ชวนผมกับคนงานไปดู พอดูเสร็จสรรพแกชอบ เลยตกลงซื้อขายกันเรียบร้อย แล้วจ้างคนมารื้อเป็นส่วนๆ แล้วเอาไปประกอบในพื้นที่ว่างหลังบริษัท แกบอกจะต่อไว้อยู่เอง ตกแต่งนิดหน่อยน่าจะสวยอยู่ ผมก็แล้วแต่..เจ้านายอยากได้ก็ตามสบาย แต่ส่วนตัวผมมีความรู้สึกไม่ค่อยดีกับบ้านเรือนไทยหลังนี้เลย มันมีความรู้สึกแปลกๆ เซนส์ลึกๆ ในตัวผมมันเตือนมาอย่างนั้น
หลังจากที่เรือนไทยถูกแยกชิ้นขนมาที่บริษัท ก็จัดการเริ่มปลูกกันเลยโดยไม่มีการทำพิธีใดๆ เจ้านายบอกประกอบเลย ไม่ต้องทำ
อะไรให้วุ่นวายหรอก เดี๋ยวต้องปรับปรุงอีกมากจะเสียเวลา ตัวผมเองเป็นคนควบคุมงาน งานผ่านไปค่อนข้างขลุกขลักพอสมควร
ไม่รู้เพราะอะไร เครื่องมือเสียบ้าง คนงานบาดเจ็บบ้าง ซึ่งผมก็พยายามไม่คิดอะไร คิดซะว่าเป็นอุบัติเหตุ ใช้เวลาหลายเดือนกว่า
จะประกอบเสร็จเรียบร้อย ซ่อมแซมจุดที่ชำรุด ก็ดูดีขึ้นกว่าเก่ามาก ดูน่าอยู่ทีเดียว หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย เจ้านาย
ก็มาบอก
พวกเราว่า เดี๋ยวจะเลี้ยงฉลองให้.. ว่าแล้วคืนวันศุกร์ก็มาถึง เจ้านายสั่งปิดบริษัทเลย วันนั้นไม่ต้องทำงาน แต่ทุกคนต้องมากิน
เลี้ยงฉลองเรือนไทยกัน เหล้า เบียร์ ขนม นม เนย เครื่องดื่มเพียบ ฉลองกันตั้งแต่เช้า ใครเมาก็นอนไป ตื่นมาก็กินต่อ ทั้งเจ้านายลูกน้อง สนุกกันเต็มที่ จนตกเย็น ลูกน้องคนอื่นๆ ก็ขอตัวกลับ ผมเองก็ไม่ไหวจะขอตัวกลับเหมือนกัน แต่เจ้านายไม่ให้กลับ บอกอยู่ก่อนๆ มีงานกลางคืนอีก ดึกๆ ค่อยกลับ หรือถ้าไม่ไหวก็นอนที่นี่เลย ซึ่งงานกลางคืนจะเหลืออยู่กัน 5 คน มีผม เจ้านาย เพื่อนผม เลขา และเพื่อนเลขาอีกคนเท่านั้น ซึ่งเลขาเจ้านายชื่อ พี่นกเล็ก แกเป็นคนอีสานตัวเล็กๆ เหมือนชื่อ แต่หน้าตาดีน่ารัก ตาคม ผมยาว แถมยังโสด พนักงานหนุ่มๆ ในบริษัทตามจีบ แต่แกไม่สนใจใคร
ช่วงงานกลางคืนเหลือแค่พวกเราที่สนิทๆ กัน เจ้านายก็เอาเหล้านอกอย่างดีมาเลี้ยง ต่างคนก็ต่างคุยเรื่องต่างๆ นานาสนุกสนาน
เจ้านายก็คุยเรื่องเรือนไทยของแกอย่างภูมิอกภูมิใจ คุยกันเพลินๆ จนเวลาล่วงเลยมาเกือบเที่ยงคืน ตายล่ะ..ดึกมากแล้ว รถที่จะ
ออกจากซอยบริษัทหมดไปนานแล้ว ผมลืมไปเสียสนิท เจ้านายบอก งั้นก็ไม่ต้องกลับ นอนกันที่บริษัทนี่ล่ะ พรุ่งนี้ค่อยกลับ
ว่าแล้วเจ้านายก็ขอตัวขึ้นไปนอนก่อน เพราะเมาจนหน้าแดงพูดแทบไม่รู้เรื่องแล้ว แกบอกว่า ‘ขึ้นไปนอนบนเรือนไทยกันสิ เดินไฟ
แล้วนี่ ในห้องโถงกลางก็มีแอร์แล้ว ไปเอาหมอนที่ห้องนั่งเล่นขึ้นไปนอนกันเลย..’ ซึ่งพวกเราก็พยักหน้าเห็นดีด้วย ว่าแล้วเรา 4
คนมี ผม เพื่อนผม พี่นกเล็ก และเพื่อนแก ก็ขึ้นไปนอนบนเรือนไทยนั้น คือนอนรวมกันแต่คนละมุม พี่นกเล็กกับเพื่อนนอนติดกับ
ทางเดิน ผมกับเพื่อนนอนมุมในสุด ด้วยความเมา ผมเลยหลับไปอย่างง่ายดาย จนมารู้สึกตัวอีกที ก็เพื่อนพี่นกเล็กมาเขย่าตัวเรียกผมกับเพื่อนให้ตื่นขึ้นมาดูพี่นกเล็ก สิ่งที่เห็นคือ พี่นกเล็กแกนั่งพับเพียบ พนมมือ หันหน้าไปที่ประตูทางเดิน แกนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้น.. ผมถามเพื่อนพี่นกเล็ก แกชื่อ พี่ติ๋ว ว่าอะไรครับพี่ติ๋ว มีอะไร? พี่ติ๋วเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ว่า ก็ไอ้นกอ่ะดิ มันบอกพี่ขอลงไปฉี่ข้างล่าง แล้วพอขึ้นมามันก็มานั่งแบบเนี้ยะ ตั้งนานแล้ว พี่เรียกมันมานอนมันก็ไม่ตอบ ไปเขย่าตัวมันก็ไม่ตอบ ช่วยไปดูหน่อยสิ พี่กลัว.. ว่าแล้วผมกับเพื่อนก็ค่อยๆ เดินไปที่ร่างพี่นกเล็ก ผมนั่งลงข้างๆ เธอ พยายามเรียกชื่อ พี่นกๆ เป็นอะไรทำไมไม่ไปนอน?
..ไม่มีเสียงตอบ ทีนี้ผมลองเอามือไปเขย่าแขนแก ตัวแกเย็นมาก เย็นเหมือนน้ำแข็ง ผมก็เขย่าแขนเรียกชื่อแก แกก็ไม่ตอบ แกนั่งลืมตานะ แต่เหมือนเหม่อลอย ผมหันไปถามพี่ติ๋ว พี่ติ๋ว พี่นกละเมอหรือเปล่า? พี่มาช่วยเขย่าตัวพี่นกให้ตื่นหน่อย ทีนี้เรา 3 คนช่วย
กันเขย่าตัวพี่นก พี่ติ๋วตบหน้าพี่นกเบาๆ เขย่าเรียกชื่อกันอยู่พักใหญ่ อยู่ๆ พี่นกก็ร้อง ‘กรี๊ดดดดดด~’ ขึ้นมา แล้วร้องไห้ฟูมฟาย ปากก็พูด ไม่ไปๆ หนูกลัวแล้ว หนูไม่ไป!! ดูเหมือนแกกลัวอะไรบางอย่างมากๆ กว่าจะปลอบจะคุยให้พี่นกใจเย็นลงได้ก็สว่างคาตา ความเมาหายเป็นปลิดทิ้ง เพราะความตื่นเต้นที่ได้พบตรงหน้า
หลังจากลงจากเรือนไทยเข้ามานั่งที่บริษัท พวกเราก็ถามพี่นกว่าเกิดอะไรขึ้น? พี่นกเล่าว่า ตอนที่พี่จะนอน กำลังเคลิ้มๆ พี่ได้ยินเสียงเรียกชื่อพี่ แล้วอยู่ดีๆ ก็ปวดฉี่ เลยบอกพี่ติ๋วว่าจะลงไปเข้าห้องน้ำ พอเดินไปเข้าห้องน้ำเสร็จ กำลังจะเดินกลับมาขึ้นเรือน พี่เห็นคนแก่ๆ ผู้ชาย ใส่ชุดโจงกระเบนเหมือนในหนัง ยืนอยู่ตรงบันได คนแก่คนนั้นบอกพี่ว่าเค้าชอบพี่ จะขอพี่ให้ไปเป็นเมียเค้า พี่ก็ตกใจ เลยร้องเรียกพี่ติ๋วกับผม แต่กลับไม่มีเสียงออกจากปาก แล้วจู่ๆ คนแก่คนนั้นก็ตรงเข้ามาเอามือปิดปากพี่ แล้วพี่ก็สลบไปเลย.. พวกเราฟังพี่นกเล่าก็แปลกใจ คิดว่าพี่นกอาจจะฝันไปเอง ละเมอมานั่งพับเพียบพนมมือ แล้วเอาความฝันมาประติดประต่อเป็นเรื่องราวเอง หรือไม่พี่นกก็จะเจอตาแก่คนนั้นจริงๆ แล้วตาแก่คนนั้นเป็นใคร พวกเราก็ไม่สามารถหาคำตอบได้
หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น พี่นกไม่กล้าเฉียดเข้าไปใกล้เรือนไทยอีกเลยแม้แต่ครั้งเดียว ดูแกจะหวาดกลัวเอามากๆ ขนาดเจ้านายให้ไปเช็คของในโกดังที่อยู่ใกล้ๆ เรือนไทย พี่นกจะต้องชวนผมไปเป็นเพื่อนทุกครั้ง ไปไหนพี่นกก็จะเอาผมไปด้วย แกกลัวเอามากๆ ช่วงนั้นผมกับพี่นกตัวแทบจะติดกันจนคนในบริษัทแซว ว่าผมจีบพี่นก แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย.. พี่นกแกชอบมาเล่าให้ผมฟังว่า พี่ฝันร้ายบ่อยมาก ฝันเห็นแต่คนแก่คนนั้นมาขอพี่ไปเป็นเมีย พี่ไม่สบายใจเลย นอนก็ไม่ค่อยหลับ เหนื่อยมาก ผมเลยพยายามปลอบใจไม่ให้แกคิดมาก ชวนแกไปทำบุญ ปล่อยนกปล่อยปลาให้สบายใจ แต่มันก็ช่วยได้แค่นิดหน่อยเท่านั้น พี่นกดูซึมเศร้าลง บางครั้งก็นั่งเหม่อลอย งานที่ทำก็แย่ลงๆ เช็คสต็อกผิดๆ ถูกๆ ใครมาเบิกของก็จัดส่งให้ผิดหลายเที่ยว จนเจ้านายต้องเรียกไปเตือนหลายครั้ง ผมกับพี่ติ๋วก็ห่วงๆ แกมาก พยายามเข้าไปคุย ไปปลอบแก.. มีอยู่วันหนึ่ง พี่นกเหมือนมีอะไรจะบอกผมกับพี่ติ๋ว แกคงคิดอยู่นาน พอถึงเวลาเลิกงาน แกก็มาบอกผมกับพี่ติ๋วว่า คืนนี้ไปนอนที่ห้องแกเป็นเพื่อนหน่อยสิ แล้วจะเข้าใจอะไรๆ ดีขึ้น.. ผมกับพี่ติ๋วก็งงในคำพูดแก แต่ก็รับปากไป
จบไปแล้วสำหรับบทความ เมียผี อ่านแล้วหลอนน่าดูเลยล่ะ