ตู้เสื้อผ้า เป็นเครื่องใช้ในบ้าน ที่อยู่ในชีวิตประจำวัน ของเรา เรียกได้ว่าใกล้ตัว และเชื่อว่า ทุกคน จะต้องมีไว้ในห้องเป็นแน่ ใครจะไปคิดว่า จะมี “ผีตู้เสื้อผ้า” วิญญาณเกาะติด ที่ไม่ยอมไปไหน อาจจะอยู่ในที่ใกล้ตัวเรา ที่สุดก็เป็นได้
เรื่องแรกที่จะเล่า ก่อนอื่น อยากให้ทุกคน นึกภาพตาม ห้องของเรา พอเปิดประตูเข้ามาจะเจอห้องน้ำอยู่ทางขวามือ
มีตู้เสื้อผ้าอยู่ติด กับผนังห้องน้ำ โดยหันหน้าตู้ ไปทางหลังห้อง ถัดจากตู้เสื้อผ้า ก็จะเป็นเตียงนอน หัวเตียงชี้ไปทางขวา ปลายเตียงชี้ไปทางซ้าย โดยเตียงจะห่างจากตู้เสื้อผ้านิดเดียว
แค่พอเปิดประตูตู้ได้ ถัดจากเตียง ไปก็จะเป็นโต๊ะ เเละถัดจากโต๊ะ ก็เป็นระเบียงหลังห้อง
ปลายเตียง มีโทรทัศน์ เหนือโทรทัศน์ จะเป็นพัดลม ติดผนัง
ประตูตู้เสื้อผ้ ามันจะปิดไม่สนิท ชอบแง้มออกมาเองได้ ไม่รู้เพราะอะไร ตอนนั้นเราคิดว่า
คงเพราะ เป็นตู้ราคาถูก ที่เขาสั่งมาให้ใช้ ในหอพัก เวลาประตูตู้ แง้มเปิดเอง จะมีเสียง “แอ๊ดดดดดด”
ช้าๆ ซึ่งเรารำคาญเสียงนี้มาก เลยแก้ไขด้วยการ พับกระดาษชิ้นเล็ก ให้หนาๆหน่อย
แล้วเอาเหน็บ ไว้ที่ประตูตู้เสื้อผ้า ให้แน่น ป้องกันประตู ตู้เสื้อผ้ามันแง้ม เปิดเอง
ซึ่งก็ได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง เพราะกระดาษชิ้นนี้ มันชอบหล่นลงมาบ่อยๆ
มีคืนนึง เรากำลังหลับ โดยที่เปิดพัดลม ติดผนัง ตรงปลายเท้า ไว้ให้มันส่ายไปมา เราก็ได้ยินเสียง
“แอ๊ดดดดด” ของประตูตู้เสื้อผ้า ครั้งแรกก็ทำให้รู้สึกตัวแล้ว แต่เราขี้เกียจลุกกำลังจะหลับต่อ
ก็ได้ยินเสียง ” แอ๊ดดดดด” อีกครั้ง เราคิดว่าเศษกระดาษที่เหน็บไว้คงหล่น
ประตูตู้เลยแง้มออกมา พอพัดลมส่ายไปโดน ประตูตู้ขยับเลยเกิดเสียง
ซึ่งอย่างที่บอกไว้แต่แรกว่าเรารำคาญเสียงนี้มาก เลยหันไปทางตู้เสื้อผ้า
ตั้งใจจะลุกไปเก็บเศษกระดาษมาเหน็บประตูตู้ไว้อย่างเดิม ป้องกันเสียงรบกวนการนอน
จังหวะที่เราหันไปนั้น เราเห็นเป็น “เด็ก” อายุประมาณ 8-10ขวบ “กำลังก้าวเข้าไปในตู้เสื้อผ้า”
ซึ่งอยู่ห่างจากเราไม่เกิน2เมตร (ใกล้มาก) ไม่แน่ใจว่าหญิงหรือชาย เพราะมืดมาก
ประกอบกับส่วนหัวเข้าไปในตู้แล้ว เหลือแค่ส่วนเอวและขากำลังก้าวตามเข้าไป เราตกใจมาก
ช๊อค นิ่ง จ้องมองอยู่อย่างนั้น จนเด็กคนนั้นก้าวเข้าไปในตู้เสื้อผ้าหมดทั้งตัว
แล้วประตูตู้ ก็ค่อยๆปิดกลับเข้าไปพร้อมเสียง “แอ๊ดดดด” เหมือนเดิม หรือจะเป็น “ผีตู้เสื้อผ้า” วิญญาณเกาะติด
พอประตูตู้ปิดเสร็จ ก็เหมือนเราตั้งสติได้ เลยรีบหันกลับมา คลุมโปง ในสมองคิดว่าจะวิ่งหนี
แต่ก็กลัวเกินกว่าจะหันกลับไปอีก กลัวว่าหากลุกขึ้นวิ่ง แล้วเด็กคนนั้นวิ่งตาม เราช๊อคตายแน่ๆ
เลยตัดสินใจนอนคลุมโปงหันหลังให้ตู้เสื้อผ้าใบนั้น พร้อมทั้งได้ยินเสียง
“แอ๊ดดดด” “แอ๊ดดดดด” ทั้งคืนจนผลอยหลับไปตอนไหนไม่รู้
พอตื่นมาในตอนเช้า เรารีบไปซื้อราวแขวนผ้า และเอาเสื้อผ้าทั้งหมดออกจากตู้
มาแขวนไว้ที่ราวแทน จากนั้นก็เอาทั้งเชือกทั้งเทปกาว มาพันปิดรอบตู้เสื้อผ้าหลังนั้นไว้
เพราะกลัวว่าประตูมันจะเปิดเองอีก หลังจากเหตุการณ์นั้นไม่นาน
เรารอจนครบสัญญาเช่า1ปี ก็ย้ายออกจากหอพักนั้น ไปอยู่บ้านเช่ากับเพื่อนแทน
ขอบคุณแหล่งที่มา : https://pantip.com/topic/36609004

มากันอีกเรื่อง เกิดชึ้นในหอหักนักศึกษา ของมหาวิทยาลัยรัฐบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ที่มี 3 พยางค์ และอักษรตัว สุดท้ายของ ชื่อมหาวิทยาลัยแห่งนี้คือ “ล” ขณะนั้นเป็นช่วงปิดเทอม นักศึกษาคนอื่นๆ จึงทยอยเดินทางกลับบ้าน เหลือเพียงนักศึกษาอยู่คู่หนึ่ง ที่ติดเรียนซัมเมอร์อีก 2 วันจึงจะกลับได้..โดยพวกเขาไม่รู้เลยว่า 2 วันนี้กลายเป็น 2 วันสุดท้ายที่จะได้อยู่ที่หอแห่งนี้
เรื่องราว ชวนขนหัวลุก เกิดขึ้นในวันแรก เมื่อหนึ่งในนักศึกษาคู่นี้ เกิดนึกสนุก อยากแกล้งเพื่อน โดยทำการวางแผนไว้ว่า จะซ่อนตัวเองอยู่ในตู้เสื้อผ้า เพื่อรอเพื่อนอีกคนหนึ่งมาปิดจะได้ตกใจ ระหว่างนั้น ก็ทำการปิดไฟ ปิดพัดลม เพื่อทำเหมือนกับว่า ทุกอย่างในห้องไม่มีคนอยู่..ขณะที่ตัวเอง ก็แอบเข้าไปซ่อนในตู้
จากนั้นไม่นานเพื่อนอีกคน หลังจากเรียนซัมเมอร์เสร็จ ก็กลับมาห้องทันที เพื่ออาบน้ำ ทุกอย่าง ทุกขั้นตอน เดินไปตามแผนการ ที่เพื่อนอีกคนหนึ่ งวางไว้อย่างไม่มีผิดพลาด จนกระทั่งมาถึง ช่วงที่จะต้องเปิดตู้ เพื่อหยิบเอาเสื้อผ้า
ทันทีที่เปิดตู้ เพื่อนที่อยู่ในตู้ ก็โผล่หน้าออกมา หลอกทันที โดยหวังว่าเพื่อนอีกคน คงต้องตกใจแน่ๆ แต่สิ่งที่ได้เห็นนั้นก็คือ เพื่อนที่โดนแกล้งจ้องมองหน้า ด้วยความเงียบ ไม่มีปฏิกิริยาอะไรออกมาเลย แม้แต่นิดเดียว ก่อนจะเบือนหน้า พร้อมเดินออกจากห้องไปอย่างช้าๆ
ด้านเพื่อนที่แกล้ง ก็เริ่มรู้สึกผิด เพราะเหมือนจะทำให้เพื่อนโกรธ แต่อีกใจหนึ่งก็แอบคิดว่า “ทำไมเพื่อนไม่ตกใจบ้างเลยนะ..” แต่ก็ไม่ได้วิ่งตามไปง้อแต่อย่างใด..จนกระทั่งในคืนที่สอง เพื่อนที่โดนแกล้งกลับมาที่ห้องอีกครั้ง พร้อมพูดว่า “คืนนี้จะไปนอนหอนอกนะ..”
จบประโยคนี้เพื่อน ที่แกล้งเริ่มตั้งคำถาม ในใจว่า มันเป็นอะไร ไม่ชอบ หรือไม่พอใจ ทำไมไม่พูดกันนะ หรือว่ามันโกรธ เรื่องที่แอบไป หลอกผีอยู่ในตู้เสื้อผ้ามัน มันหวงเสื้อผ้าหรือเปล่านะ ซึ่งสุดท้าย ก็ได้ข้อสรุปว่า วันพรุ่งนี้เช้า ก่อนจะแยกย้าย กล้บบ้าน จะไปพูดขอโทษเพื่อน
พอรุ่งเช้าซึ่งเป็นวันที่ทั้งสองเสร็จสิ้นภารระกิจการเรียนซัมเมอร์ และตั้งใจจะกลับบ้าน ระหว่างที่กำลังเก็บกระเป๋า จัดเสื้อผ้าอยู่นั้น เพื่อนฝ่ายที่แกล้ง ก็ได้เอ่ยปากขอโทษถึงเหตุการณ์ที่แกล้งเป็นผี และสัญญาว่าต่อไปจะไม่ทำอย่างนี้อีก
ขณะที่เพื่อนอีกฝ่ายที่ โดนแกล้ง กลับยังนิ่ง เงียบ ถอนหายใจอย่างแรง ก่อนจะเงยหน้ามาตอบบทสนทนา ของเพื่อนว่า “ฉันไม่โกรธแกหรอก แต่ฉันกลัว กลัวผู้หญิงหน้าขาว ผมยาว ที่กำลังเอาคางเกยไหล่แก ตอนอยู่ในตู้นั้นแหละ..”
อ่านบทความเพิ่มเติม : ของแต่งรถเก๋ง ที่คนชอบรถต้องมี
อ่านบทความเพิ่มเติม : 10 หนังผีสุดหลอน น่ากลัวระดับขึ้นหิ้ง