ผมโดนคุณไสย เรื่องเล่าสุดสยองขวัญนี้ได้เกิดขึ้นกับเจ้าของพี่คนหนึ่ง ซึ่งเขาได้ไปเจอประสบการณ์ชวนหลอน และได้นำเรื่องนี้มาเล่าสู่กันฟัง จะเป็นอย่างไรนั้นมาติดตามและรับชมกันเลย
ก่อนหน้านี้ผมใช้ชีวิตตามปกติ สังคมของผมไม่ค่อยได้ใกล้ชิดหรือสัมผัสกับสิ่งลี้ลับหรือคุณไสยอะไรเลย จนกระทั่งปลายปี 2546 ได้ร่วมลงทุนใช้สัญญาใจกัน ก็เป็นธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งตัวสินค้าหรือชิ้นงานเป็นไอเดียของผมเอง
ช่วงนั้นผมมีงานประจำอยู่ก็เลยตกลงกันให้พี่เค้าเป็นคนบริหารพร้อมกับภรรยาของพี่เค้าซึ่งเข้าร่วมหุ้นด้วย ซึ่งตอนแรกก็ตกลงกันอย่างดี จนกระทั่งธุรกิจเริ่มเต้นได้ดีเกิดคาด เพียง 3 เดือนแรกก็ได้กำไรเป็นหลักเกือบล้านบาท
ผมก็ได้รับส่วนแบ่งตามที่ตกลงกันไว้ พอเริ่มเข้าเดือนที่ 12 ก็เริ่มรู้สึกแปลกๆหลายๆอย่างเช่น พี่เค้าและภรรยาเริ่มมาพูดกับผมว่าตอนนี้สินค้าเริ่มมีการก็อปปี้กันมากขึ้นแล้วมีความจำเป็นต้องแยกกันแล้วล่ะ พอเริ่มมีการแข่งขันเรื่องราคาเค้ากลัวว่าผมจะมีความเสี่ยงด้วย ก็เลยอยากให้ผมยกเลิกการเป็นหุ้นส่วน วินาทีนั้นผมก็รู้เลยว่า ผมโดนโกงแล้ว
ผมก็เลยพยายามทำใจ ตอนนั้นทั้งเสียใจ ทั้งแค้น คิดจะสาปแช่ง ผมก็เลยพูดทวงถามสิทธิ์ต่างๆ ในส่วนของผมและขอดูรายละเอียดทั้งหมดแต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยง รมถึงการจดลิขสิทธิ์ความคิดในตัวสินค้าที่ตกลงกันว่าจะต้องเป็นชื่อของผม แต่ตอนแรกพี่เค้าเป็นคนจดทะเบียนซึ่งให้เหตุผลกับผมว่าผมคงไม่มีเวลาไปจด และบอกว่าจะเปลี่ยนเป็นชื่อผมให้ในภายหลัง พี่เค้าทั้งสองคนก็พูดเลยว่าไม่เปลี่ยนให้ ซึ่งผมเสียเปรียบตลอดทุกอย่าง
ผมเลยเริ่มคิดในใจ โชคดีที่มีธรรมะอยู่ในใจบ้าง ตอนนั้นก็เลยคิดว่าคงเป็นกรรมเก่าของเราก็เลยทำให้สบายใจขึ้นบ้าง หลังจากนั้นพี่ๆเค้าก็ซื้อรถใหม่ ปลูกบ้านราคาหลายสิบล้าน ออกสินค้าใหม่มากมายซึ่งตรงกันข้ามกับที่เค้าพูดว่าธุรกิจเริ่มแย่จำเป็นต้องแยกกัน หลังจากนั้นผมปลีกตัวออกมา แต่ก็ยังคงคุยกับพี่เค้าทั้งสองคนได้ แต่ก็รู้สีกเสียใจและโกรธอยู่ ก็งงๆว่าทำไมเรายังคุยกับเค้าได้อีกนะ แถมยังช่วยงานเค้าทั้งสองทุกครั้งที่เค้าเรียกใช้โดยไม่ได้ผลประโยชน์อะไร จนกระทั่งผมมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมกับคุณแม่ 3 วันก็เลยทำให้ผมเริ่มคลายความโกรธแค้นลงจนกระทั่งแทบจะไม่เหลือเลย ก็เลยอโหสิกรรมให้พี่เค้าทั้ง 2 คน จนเวลาผ่านไป 2 ปี
ผมก็ได้ทราบความเคลื่อนไหวของพี่เค้าเรื่อยๆ ว่าธุรกิจเริ่มมีปัญหา ออกสินค้าใหม่ขายไม่ได้ เหลือค้างสต๊อก การเงินติดขัด จนบางครั้งก็ยังมาขอยืมเงินผมอีก ผมก็ให้ยืมแต่พี่เค้าก็คืน ส่วนภรรยาพี่เค้าก็เริ่มป่วยเป็นซีสต์ที่รังไข่ เข้าออกโรงพยาบาลบ่อยมาก ผมก็คอยปลอบใจและให้กำลังใจพี่เค้าทั้งสอง พี่เค้าทั้งสองคนเริ่มทะเลาะกัน และกู้เงินธนาคารมาทำสินค้าอีกก็ไม่ประสบความสำเร็จอีกเลย ทำให้เป็นหนี้หลักหลายล้านบาท
จนกระทั่งผมได้เห็นสัจธรรมมากขึ้น ก็เลยมีโอกาสได้ทำบุญบ่อยขึ้นเรื่อยๆ และผมได้พบกัลยาณมิตรท่านหนึ่งซึ่ง พี่คนนี้นิสัยดีมาก พี่เค้าแนะนำให้รู้จักกับอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านมีความสามารถล่วงรู้กรรมของผมได้ อาจารย์ก็ทักผมว่าผมโดนทำคุณไสยใส่
ในตอนแรกที่ผมเจอกับอาจารย์ท่านนี้ตัวผมร้อนมากๆ ไม่อยากคุยด้วย ก็งงเหมือนกันว่าทำไมเป็นอย่างนี้ ผมแรกผมก็ไม่เชื่อก็คิดว่างมงาย จนกระทั่งอาจารย์พูดออกมาเองว่า ผมโดนหุ้นส่วนที่โกงไปจ้างฤาษีทำของใส่ผมให้ผมเชื่อ พูดอะไรก็ฟังแต่เค้า อยากช่วยเค้าทุกอย่างเค้าทำเพื่อจะเอาความคิดดีๆ จากเราเพื่อไปทำสินค้าขาย พอถึงตรงนี้ผมเลยยอมคุยและฟังที่อาจารย์พูด อาจารย์ท่านก็บอกว่าเค้าเรียกผีให้เข้ามาสิงในร่างผม อาจารย์จะไล่ออกให้ ผมก็ยังไม่เชื่อและไม่คิดว่าจะโดนกับผมเพราะผมเคยเห็นแต่ในหนัง
จนผ่านไป 2 สัปดาห์ ผมเริ่มรู้สึกผิดปกติ ฉุนเฉียวง่าย ขับรถเร็วมาก และที่สำคัญระหว่างขับรถไปทำธุระเกือบเกิดอุบัติเหตุแรงๆ หลายครั้งมากจนไม่สบายใจ ก็นึกถึงอาจารย์ท่านนี้ ก็เลยไปหาท่านพอเจอปุ๊บอาจารย์ก็พูดว่าผมจะเกิดอุบัติเหตุหลายรอบแล้ว เพราะฤาษีที่ทำให้คุณไสยเริ่มรู้แล้วว่าผมเริ่มจะรู้ตัวแล้วว่าโดนของ เค้าจะต้องทำให้ถึงชีวิต เพราะถ้าไม่อยากนั้นของมันจะย้อนเข้าตัวเค้า อาจารย์ก็เลยช่วยไล่ผีที่อยู่ในตัวผมออก จนกระทั่งอาจารย์ทำพิธีง่ายๆ ไม่ยุ่งยากอะไรเลย
อาจารย์ให้ผมนอนลงกับพื้นแล้วพูดประมาณว่า ไล่สิงชั่วร้ายวิญญาณชั่วร้ายให้ออกไปจากตัวผม ผ่านไปไม่ถึงนาที ตัวผมเริ่มกระตุก ระหว่างกระตุกมือผมก็จะหงิกและดำคล้ำ แล้วเหมือนมีอะไรมาขอเกี่ยวมือเราไว้ ผมนอนกระตุกตั้งแต่บ่ายโมงถึง 3 ทุ่มครึ่งเป็นเวลา 2 วัน ระหว่างนอนกระตุกผมก็สนทนากับอาจารย์ได้ด้วย จนกระทั่งวันที่สาม อาจารย์บอกว่าใกล้จะหมดแล้วเหลืออีกไม่ถึง 1 ใน 5 ส่วน พอใกล้เวลาจะเลิกผมกระตุกแล้วก็อาเจียนออกมาเป็นลิ่มเลือดเล็ก 2 ลิ่ม ตอนนั้นผมรู้สึกกลัวมากๆ เพราะในชีวิตไม่เคยเจออะไรแบบนี้
พอวันสุดท้ายอาจารย์ก็บอกว่า คนที่ทำคือพี่สองคนที่เป็นหุ้นส่วนผม เค้ากำลังจะแย่บ้านก็จะโดนยึด และจะเป็นโรคร้ายที่รักษายาก ทำอะไรก็ไม่ขึ้นแล้ว ตอนนี้เค้าสองคนเริ่มรู้สึกกลัวกรรมที่เค้าได้ทำกับผมแล้ว และคนที่ทำของใส่ผมก็คือภรรยาของพี่ที่สนิทกับผม ซึ่งภรรยาก็ทำสามีให้เชื่อเช่นกัน แล้วทำกับผมด้วย ซึ่งภรรยาเค้าก็ป่วยด้วยโรคมะเร็งรังไข่ในตอนนี้ ผมก็ได้แค่อโหสิกรรมและแผ่เมตตาให้กับเค้าสองคน
อาจารย์บอกว่าในปัจจุบันมีคนทำของใส่มากกว่าสมัยก่อนอีก เพราะคนมีความโลภมาก อยากได้ของคนอื่นแบบง่ายๆ ก็ใช้วิธีแบบนี้ อยากให้ทุกคนระมัดระวังตัวไว้ด้วยนะครับ
ก็จบไปแล้วกับบทความ ผมโดนคุณไสย เรื่องนี้ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านและรับชม เป็นเพียงเรื่องเล่าเพื่อความบันเทิงเท่านั้น
ที่มา : พลังจิตดอทคอท
สนับสนุนเว็บไซต์โดย : สมัครสล็อตxo
บทความเพิ่มเติม เรื่องสยองขวัญ