สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ หรือ ส่วนสมเด็จย่า เชียงราย คือ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี 80 พรรษา ลำดับที่ 7 ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านดู่ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ห่างจากตัวเมืองประมาณ 9 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 625 ไร่เศษ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เสด็จเป็นประธานเปิดสวน เมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2531 โดยมีหน่วยงานรับผิดชอบในการดูแลรักษา คือ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย ต้นไม้ประจำสวน คือ สุพรรณิการ์ ที่นี้มีเรื่องเล่าขาน ในเรื่องลี้ลับ ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไรนัก วันนี้เราได้นำ เรื่องราวน่าขนลุกมาเล่าให้ฟังกัน

สวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ เชียงราย ล้อมรอบด้วยพื้นน้ำและพื้นดินที่เป็นทุ่งนา หมู่บ้าน ป่าสงวน รวมทั้งพื้นที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย ไกลออกไปจะเห็นภูเขาสีเทาครามล้อมรอบและใกล้ ๆ มีเนินเตี้ย 3 เนินและพื้นที่ราบสวยงาม บนเนินมีต้นสุพรรณิการ์หรือ “ฝ้ายคำ” เป็นจำนวนมาก
เมื่อถึงฤดูออกดอก จะเหลืองสดใส สะพรั่งน่าประทับใจ ในพื้นที่มีหนองน้ำใหญ่ เรียกว่า “หนองบัวใหญ่” และหนองเล็กเรียกว่า “หนองบัวน้อย” ยามเช้า และ เย็นเมื่อพระอาทิตย์ทอแสง ผิวน้ำที่พริ้ว เป็นระลอก จะสะท้อนแสงอาทิตย์ ด้วยสีสันที่งดงาม ทำให้มีประชาชนมาเที่ยวชมจำนวนมาก ตามแนวแกน ของสวนที่บนเนิน จะมีพลับพลาที่ประทับเป็นสถาปัตยกรรมแบบ เชียงรายตั้งเด่นเป็นสง่า แลไปทางหนองบัวใหญ่ซึ่งจะเห็น “อุทยานดอกไม้” ที่ปลุกไม้ดอกเมืองหนาว เป็นขั้นหลั่น ลงไปตามเนิน จนชิขอบหนอง
จุดเด่น อีกสวนหนึ่ง ของสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ เชียงรายคือ “ถนนดอกไม้” ที่ยาวหลายร้อยเมตรเป็น แกนเชื่อมระหว่างหนองบัวใหญ่ และ หนองบัวน้อย มีสวนปาล์ม สวนไผ่ สวนสัก และสวนรุกขชาติเป็นส่วนประกอบสำคัญด้วย ภายในสวนมีศูนย์วิจัยและพัฒนาแพทย์พื้นบ้านแผนไทย และแผนชนเผ่า ของสถาบันราชภัฎเชียงราย มีสวนรวบรวมพันธุ์สมุนไพร พืชผักพื้นบ้าน ดูเหมือนว่าจะเป็นสวนธรรมดาไม่มีอะไร แต่กลับมีเรื่องราวน่าแปลกที่เกิดขึ้นที่นี้
ณ สวนสมเด็จย่า มรช.เชียงราย เวลา 01.00 น.
ผมเป็นคนที่ชอบถ่ายรูปมาก ด้วยความที่ผม ชอบในการถ่ายถาพ ที่สวนสมเด็จย่าเป็นประจำ ปรกติ ผมจะชอบ ถ่ายภาพตอนกลางวัน แต่ผมอยากลองถ่ายแบบกลางคืน เพราะแสงหลอดไฟมันสวยดี
ผมเลยชวนเพื่อน ไป 3 คน พอเข้าไปกันใน สวนสมเด็จย่า บรรยากาศมันก็เงียบ ๆ เย็น ๆ ถ่ายกันไปถ่ายกันมา นี่ละครับ ผมก็เห็นตรง มุมต้นโพธิ์ ต้นใหญ่มันสวยดี บวกกับมีแสง ของหลอดไฟอยู่ ผมก็คว้ากล้องถ่าย ปกติแล้วโฟกัสของกล้องพอเวลาเจอแสงมันจะล๊อคโฟกัสไปที่แสง แต่ทำไม มันล๊อคโฟกัส ไปที่ตรงต้นโพธิ์ แสงก็มืดมาก เสียงดังติ๊ด ๆ ล๊อคโฟกัสไปที่ต้นโพธิ์ตลอด ผมคิดในใจไม่น่ามีอะไร ก็เลยถ่ายต่ออีก 4-5 ภาพ ซักพักพอ จะเดินไปหามุมใหม่ ผมได้ยินเหมือน มีคนตามผมมา เหมือนเป็นเสียงรองเท้าแตะ เดินตาม… แบบหูคีบเดินแล้วมันดีดแป๊ะ ๆ
พอผมหันไปดู ก็ไม่มีอะไร แต่ทำไม เวลาผมเดิน มันดัง! ผมก็ ไม่ได้คิดอะไร พวกผม กว่าจะถ่ายเสร็จ ก็ประมาณ เกือบตี 2 พวกผม ก็แยกย้าย กลับหอกัน แต่พออีกวัน ผมตื่นมา จะเปิดกล้องดูภาพ ปรากฎกล้อง ผมเปิดไม่ติด!! ผมคิดในใจ ทีแรกนึกว่า แบตหมด ผมชาร์จแล้วเปิดใหม่ ก็เปิดไม่ออก ผมคิดในใจ “ฮาโดนของดีแล้วล่ะ!!” เลยโทร ไปถามเพื่อน อีก 2 คน มันบอกผมว่า เมื่อคืนฮาหัน มีคนซ้อนรถ เครื่องคิง กลับหอตวย
ผู้ชายบะ ฮาคิดว่าเพื่อนคิงมาส่ง คิงถ่ายรูป ฮาบ่ารู้ ผมก็เลยเอาเมมมอรี่ กล้องเปิดดูรูป ที่ถ่ายตรงต้นโพธิ์ มันเปิดได้แต่รูปหายครับ!! หายไปไหน ?? ผมเริ่มขนลุกละ ต่อมาผมไปแม่สาย ผมขึ้นไปวัดดอยเวา ซึ่งผมกำลังจะเข้า ไปนั่งไหว้พระ ยังไม่ทันได้นั่ง หลวงพ่อเดินมาบอก “โยมม มากับน้าชายหรอ?” ผมงง เลยครับ ผมบอก “ผมมาคนเดียวครับ น้าชายไหนครับหลวงพ่อ” หลวงพ่อ ไม่พูดอะไร แล้วก็เดินหนีผมเฉย….
ขณะผมกลับบ้าน ไปกินเหล้า กับพวกพี่ ๆ กลางทุ่งนา ตอนกลางคืน เขาก็ทัก ว่าให้ผมไปทำบุญ มีคนตามผมมา เขามาดี เขามา ขอส่วนบุญ อายุประมาณ 40 ผู้ชาย จากเมื่อก่อนที่ผมไม่เคย เชื่อเรื่องผี ๆ ตอนนี้ผมเจอเต็ม ๆ แล้วครับ ตอนนี้ผมก็ทำบุญให้พี่เขาแล้วครับ ไม่รู้ว่าจะเป้นยังไงต่อไป แต่เพื่อนผมมันไม่กล้ามาที่ห้องผมเลย มันบอกห้อง มึงเย็น ยังกะโรงเย็น นั่งแล้ว เย็นแข้งเย็นขา เพื่อนผมมาไม่เกิน 5 นาทีมันก็กลับกันหมด
อ่านบทความเพิ่มเติม : Blackpink ความสำเร็จ และประวัติน่าสนใจของสมาชิกในวง
อ่านบทความเพิ่มเติม : อย่าลองของกับเด็กเสิร์ฟ